ซิดนีย์

สำหรับการเดินชมบอนได (Bondi) และ บรอนเต้ (Bronte) opens in new windowที่ตลอดเส้นทางจะมีหน้าผาที่สวยงามให้ชม เรื่อยไปจนถึงชายหาดที่ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของชานเมือง โดยในระหว่างเดือนเมษายนจนถึงธันวาคม จะมีฝูงปลาวาฬที่อพยพมายังที่นี่ให้คุณได้ตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้ยังมีศิลปะหินแกะสลักพื้นเมืองของชาวอะบอริจิน ให้ชมระหว่างทางในทางตอนใต้ของอ่าวแมคเคนซีส์ (Mackenzies Bay)

ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวกว่า 3 ล้านคนต่างให้ความสนใจกับกิจกรรมปีนสะพานซิดนีย์ ฮาร์เบอร์ (Sydney Harbour Bridge) ซึ่งที่นี่มีระดับความสูงที่ครอบคลุมสำหรับทุกเพศทุกวัย (โดยต้องมีอายุอย่างต่ำ 10 ปีขึ้นไป และมีความสูงไม่น้อยกว่า 1.2 เมตร) 

ด้วยภัตตาคารชั้นดีอย่าง คีย์ (Quay) opens in new window และอาเรีย (Aria) opens in new window ซึ่งจัดเสิร์ฟวิวระดับห้าดาวคู่เมนูรสเลิศ แต่หากใครอยากมองหาบรรยากาศสบายๆ และไม่หรูหรามากเกินไปสำหรับครอบครัว ไซน่าทาวน์ ก็มีอาหารมากมายให้เลือกลิ้มลอง ตั้งแต่สวนอาหารไปจนถึงร้านอาหารชื่อดังโดยเชฟมากฝีมือ อาทิ ร้านอาหารทะเลโกลเด้น เซ็นจูรี่ (Golden Century Seafood Restaurant) opens in new window

เพียง 10 นาทีจากตัวเมืองก็จะพบชุมชนโบฮีเมียนที่เต็มไปด้วยร้านเสื้อผ้า คาเฟ่ ผับท้องถิ่น รวมทั้งวิถีชีวิตที่น่าสนใจ ซึ่งเหมาะสำหรับการแวะเที่ยวในช่วงบ่ายของวัน ด้วยการเดินไปตามถนนคิง สตรีท (King Street) พร้อมแวะลิ้มลองเมนูอร่อยเลื่องชื่อของเมืองนี้ที่ร้านฮาร์ดสยาร์ด (Hartsyard) opens in new window หรือ บลัดวู้ด (Bloodwood) opens in new window ในช่วงอาหารค่ำก็ดีไม่น้อย โดยที่นี่นับเป็นศูนย์รวมความรื่นรมย์ที่ใหญ่ที่สุดด้วยเต็มไปด้วยผับและวงดนตรีสดมากมาย

การเช่าเรือยอร์ชนับเป็นทางเลือกที่วิเศษ แต่ก็อาจจะทำให้การเที่ยวชมซิดนีย์ ฮาร์เบอร์นั้นมีราคาสูงเกินไป ลองหันมาใช้เรือแมนลี่ เฟอร์รี่ (Manly Ferry) opens in new windowที่มีราคาค่าตั๋วเพียง 14.40 เหรียญ (เด็ก 7.20 เหรียญ) ก็พร้อมพาคุณชมวิวทิวทัศน์อันโดดเด่นอย่างโอเปร่า เฮาส์ และอาคารหลังงามที่เรียงรายบนอ่าวแห่งนี้ได้ และหากเที่ยวมาจนถึงอีกด้านของเมืองก็ห้ามพลาดไปเยือนแชลลี่ บีช (Shelly Beach) ด้วยเช่นกัน