ศูนย์กลางการสังสรรค์ของนักโต้คลื่นและผู้รักความสนุกสนานทุกรูปแบบแห่งออสเตรเลีย
โกลด์ดี้ นับเป็นบ้านอีกหลังของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการโต้คลื่น ด้วยเป็นศูนย์รวมสถานที่โต้คลื่นชื่อดังมากมายอย่าง บรอดบีช (Broadbeach) ที่มีทั้งสถานที่ช้อปปิ้ง คาสิโน และรีสอร์ทติดชายหาด แต่ที่พลาดไม่ได้คือ การโต้คลื่นที่กรีนเม้าท์ (Greenmount) เคอร์รัมบิน (Currumbin) และ เบอร์เลห์ (Burleigh) นอกจากนี้ โกลด์โคสต์ยังติดอันดับเมืองหลวงที่พร้อมมอบความสุขสนุกสนานให้กับทุกคนในครอบครัว ด้วยมีธีมพาร์คต่างๆ มากมาย ทั้งซีเวิลด์ (Sea World) ไวท์วอเตอร์ เวิลด์ (White Water World) ไปจนถึงวอร์เนอร์บราเธอร์ส มูฟวี่ เวิลด์ (Warner Bros Movie World) ดรีมเวิลด์ (Dreamworld) และ ออสเตรเลีย เอ้าท์แบ็ค สเปคทาคูลาร์ (Australia Outback Spectacular) นอกเหนือจากความสนุกสนานในเมืองหลวงแล้ว โกลด์โคสต์ยังมีอุทยานแห่งชาติอันเขียวขจี จนถูกขนานนามว่า “The Green Behind the Gold” เพราะด้วยความอุดมสมบูรณ์ต่างๆ ของชั้นหิน น้ำตก และความงามจากธรรมชาติที่เชื้อเชิญให้มาเยี่ยมเยือน อย่างที่อุทยานแห่งชาติแทมโบรีน (Tamboline Mountain) สปริงบรู๊ค (Springbrook) และเคอร์รัมบิน วัลเลย์ (Currumbin Valley) โกลด์โคสต์ สวรรค์แห่งวันพักผ่อนชื่อดัง พร้อมแล้วที่จะต้อนรับคุณด้วยกิจกรรมสุดตื่นเต้น ท้าทาย หรือในแบบสบายๆ ด้วยแสงแดดอบอุ่นตลอดทั้งปี
เรื่องน่าทำ: โกลด์โคสต์
-
ใช้ชีวิตริมทะเล
Pepper Broadbeach opens in new window ที่พักที่ตั้งอยู่ใจกลางบรอดบีช (Broadbeach) ที่รับรองว่าจะไม่ปล่อยให้คุณท้องว่างอย่างแน่นอน ด้วยร้านอาหารแบบกลางแจ้งกว่า 100 ร้าน ที่พร้อมจัดเสิร์ฟอาหารหลากหลายรูปแบบ และหากคุณกำลังมองหาที่พักสำหรับครอบครัว Zagames Paradise Resort opens in new window ตั้งอยู่ใจกลางเซิร์ฟเฟอร์สพาราไดซ์ (Suffers Paradise) ก็เป็นตัวเลือกที่เยี่ยมยอด ด้วยมีคลับสำหรับเด็กที่ทำให้พ่อแม่มีเวลาส่วนตัวในการพักผ่อน หรือจะเป็นที่ Nirvana by the Sea opens in new window ซึ่งตั้งอยู่ทางใต้ของโกลด์โคสต์ที่ชายหาดเคอร์ร่า (Kirra Beach) ที่เหมาะสำหรับคู่รัก ด้วยในห้องพักภายใต้ธีม “Life Spaces” กว้างขวาง และสามารถมองเห็นวิวชายหาดอันโด่งดังของควีนส์แลนด์ได้ในแบบพาโนราม่า
-
ความอุดมสมบูรณ์ของโลกธรณีวิทยา
โกลด์โคสต์นั้นมีทุกสิ่งให้เที่ยวชม รวมทั้งอุทยานแห่งชาติอันสวยงามที่ล้วนมีทางเดินให้ได้เดินสำรวจออกกำลังขาทั้ง สะพานหินธรรมชาติที่อุทยานแห่งชาติเขตป่าฝนสปริงบรู๊ค opens in new window (Springbrook National Park’s Natural Bridge Rainforest Circuit) ผาชมจันทร์ที่เขตป่าฝนโอริลลีย์ opens in new window (O’Reilly’s Rainforest Retreat) และเทือกเขาแทมโบรีน (Tamboline Mountain) โดยเฉพาะที่อุทยานแห่งชาติเขตป่าฝนที่มีความมหัศจรรย์ของชั้นหินตามธรรมชาติให้ได้ชม ซึ่งเป็นชั้นหินที่ก่อตัวจนเป็นทรงโค้งทำให้เกิดเป็นถ้ำใต้น้ำตกขึ้นมา อันเป็นแหล่งที่อยู่ของหนอนเรืองแสง (Glowworms) กว่าพันๆ ตัว ที่พร้อมจะมอบความน่าตื่นตาตื่นใจในยามค่ำคืนเท่านั้น ส่วนเขตป่าฝนโอริลลีย์นั้นตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติลามิงตัน (Lamington National Park) อุทยานแห่งชาติที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ที่นี่คุณจะได้หลงมนต์เสน่ห์ไปกับป่าฝนเขตร้อน ซึ่งมีทางเดินยาว 160 กิโลเมตรให้คุณได้เดินสำรวจ รวมไปถึงน้ำตก 500 แห่ง และสัตว์ป่ากว่า 250 ชนิดให้ได้พบเห็น และที่เป็นไฮไลท์ซึ่งพลาดไม่ได้ก็คือผาชมจันทร์นั่นเอง เทือกเขาแทมโบรีน ได้รับสมญานามว่า The Green behind the Gold ซึ่งพร้อมพาคุณย้อนยุคสู่บรรยากาศเก่าๆ ของร้านอาหารเก๋ๆ โรงกลั่นไวน์ และวิศกรรมอันโดดเด่นของทางเดินลอยฟ้า ซึ่งเป็นทางเดินเหนือยอดไม้ที่ยาวที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของควีนส์แลนด์ ด้วยความยาวสะพาน 300 เมตร ที่พร้อมให้ได้ผจญภัยเหนือยอดไม้ผ่านป่าฝน ก่อนจะไปถึงทางเดินลอยฟ้ายาว 40 เมตรที่ยื่นยาวออกมาจากตัวสะพานหลัก โดยสูงกว่า 30 เมตร เพื่อให้คุณได้สัมผัสกับป่าเขตฝนได้อย่างสุดลูกหูลูกตา
-
สัมผัสชายฝั่งทะเล
โกลด์โคสต์ที่มีพื้นที่ชายหาดสำหรับกิจกรรมเซิร์ฟที่ยาวกว่า 57 กิโลเมตร ที่เต็มไปด้วยนักเล่นกระดานโต้คลื่นจำนวนนับไม่ถ้วน ชายหาดนั้นเป็นทรายสีทองสะอาด พร้อมการดูแลความปลอดภัยโดยเจ้าหน้าที่ชายฝั่ง กิจกรรมบอร์ดยืนพาย (Stand Up Paddle Boarding or SUP) ก็กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ ด้วยสนุกสนานคล้ายการออกกำลังกาย หากคุณเป็นมือใหม่ JM Stand Up Paddle opens in new window และ Surfers Paradise Stand Up Paddle opens in new window ก็พร้อมจะเทรนให้คุณช่ำชองกับการโต้คลื่น แต่หากอยากจะโต้คลื่นอย่างสมบูรณ์แบบท่ามกลางเกลียวคลื่นที่งดงาม Get Wet Surf School หรือ Brad Holmes Surf Coaching opens in new window ก็สามารถเนรมิตให้ได้ หรือจะแหวกแนวหรรษากับกิจกรรมทางน้ำในแบบอื่นๆ อย่างการล่องเรือแบบกลุ่มหรือกับครอบครัว ไปยังเกาะสแตรดโบรค (Stradbroke Island) หรือสำรวจชายหาดต่างๆ ไปพร้อมกับเรียนรู้วิธีการพายเรือเที่ยวแบบใหม่ๆ ก็ทำได้เช่นกัน
-
ช่วงเวลาแสนสุข
โกลด์ดี้เป็นเมืองหลวงแห่งธีมพาร์คของออสเตรเลีย ที่รวมเอาสวนสนุกมากมายมาไว้ด้วยกัน อาทิ ดรีมเวิลด์ opens in new window, มูฟวี่ เวิลด์ opens in new window, ซีเวิลด์ opens in new window, เว็ทแอนด์ไวลด์ opens in new windowและไวท์วอเตอร์ เวิลด์ เป็นต้น เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาและคุ้มค่าเงินที่สุด ควรซื้อตั๋วผ่านทางออนไลน์ในแบบที่เป็นตั๋วเหมาจ่าย (Unlimited Passes) อีกทั้งควรใช้บริการรถประจำทางในการเดินทาง เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรและการหาที่จอดรถ นอกจากนี้ ก็ยังมีตั๋วสุดคุ้ม ใบเดียวเที่ยวได้ทั้งสามสวนสนุก ซึ่งได้แก่ มูฟวี่ เวิลด์, ซีเวิลด์ และเว็ทแอนด์ไวลด์ คลิกดูรายละเอียดได้ที่ www.themeparks.com.au ทั้งนี้ ดรีมเวิลด์และไวท์วอเตอร์ เวิลด์ ก็ยังมีข้อเสนอส่วนลดค่าตั๋วต่างๆ ที่ www.shop.dreamworld.com.au opens in new windowอีกด้วย
-
ดูปลาวาฬ
ความอัศจรรย์จากธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของโกลด์โคสต์ ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งอพยพของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่อย่างปลาวาฬหลังค่อม ที่จะว่ายวนเวียนให้ได้ชม ตามแนวชายฝั่งถึง 25,000 ตัวในช่วงเดือนมิถุนายนถึงพฤศจิกายน
ข้อมูลสนามบิน
เซิร์ฟเฟอร์สพาราไดซ์ 20 กิโลเมตร
ระยะเวลาการเดินทาง 30 นาที
ค่าแท็กซี่ ราคาประมาณ $64
สกายบัสให้บริการรับส่งระหว่างสนามบินโกลด์โคส (Gold Coast) กับโรงแรมกว่า 500 แห่งในโกลด์โคส – เริ่มต้นที่ราคา AUD $18 (ขาเดียว) และฟรีไวไฟ
รถประจำทางสาย 702 รถออกทุกๆ 30 นาที เที่ยวเดียวราคาเริ่มต้นที่ $7
ควรไปช่วงใด
โกลด์โคสต์มีสภาพอากาศดีตลอดทั้งปี และแทบจะไม่มีฤดูกาลเลยก็ว่าได้ โดยส่วนใหญ่จะมีภูมิอากาศแบบกึ่งร้อน ซึ่งเหมาะสำหรับการทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นอย่างยิ่ง เฉลี่ยแล้วใน 245 วันต่อปีอากาศจะสดใส โดยในช่วงฤดูร้อน (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) อุณหภูมิในช่วงกลางวันจะอยู่ที่ประมาณ 20 องศาเซลเซียส แต่จะมีอากาศที่เย็นขึ้นประมาณ 16 องศาเซสเซียสในบริเวณนอกเมืองโดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว ในเดือนมกราคมถึงมีนาคมจะมีฝนตกชุก ในกลางวันจะมีอากาศร้อน และตามมาด้วยพายุฤดูร้อนในบางครั้ง ฤดูร้อนจึงเป็นช่วงที่ดีที่สุด สำหรับการมาเยือนชายหาดอันสวยงามของโกลด์โคสต์ พร้อมทำกิจกรรมโลดโผน และสัมผัสความบันเทิงตามธีมพาร์คต่างๆ แต่หากคุณอยากดูปลาวาฬแล้วละก็ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดก็คือ เดือนมิถุนายนไปจนถึงตุลาคม ซึ่งจะมีบริการเรือนำเที่ยวมุ่งหน้าพาคุณไป
กลับไปข้างบนการเดินทาง
โกลด์โคสต์มีรถประจำทางบริการโดย บริษัท ทรานส์ลิงก์ (TransLink) และเซิร์ฟไซด์ (Surfside) ซึ่งจะวิ่งเรียบตลอดแนวชายฝั่ง พร้อมบริการในช่วงหลังเที่ยงคืน เรียกว่า ไนท์ลิงก์ (NightLink) อีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีบริการรถราง จีลิงก์ (G:link) ที่พร้อมเปิดให้บริการโดยสมบูรณ์ในช่วงกลางปี 2014 นี้ ซึ่งประกอบไปด้วย 16 สถานีด้วยกัน เริ่มต้นจากโรงพยาบาลโกลด์โคสต์ ยูนิเวอร์ซิตี้ (Gold Coast University Hospital) ไปจนถึง เซ้าท์ บรอดบีช (South Broadbeach) แต่สำหรับการเดินทางไปยังเขตนอกเมืองยังพื้นที่ที่ไกลออกไป รถเช่าและบริการแท็กซี่ยังคงเป็นบริการที่สะดวกที่สุด
กลับไปข้างบน