พนมเปญ
จุดเริ่มต้นของการท่องเที่ยวประเทศกัมพูชา เมืองหลวงแห่งนี้พร้อมมอบเรื่องราวในอดีตพร้อมๆ ไปกับอนาคตที่สดใส
ครั้งหนึ่งที่นี่เคยเป็นที่รู้จักในนาม “ปารีสแห่งตะวันออก” กรุงพนมเปญ เมืองหลวงที่ถูกสร้างขึ้นในที่ๆ แม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำโตนเลสาบ และแม่น้ำบาสักไหลมาบรรจบกัน แม้ในอดีตอาณาจักรแห่งนี้จะเคยวุ่นวาย ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งที่โดดเด่นของจักรวรรดิฝรั่งเศส ซึ่งก็ยังคงมีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อกรุงพนมเปญจวบจนถึงปัจจุบัน แต่เมืองแห่งนี้ก็ยังคงก้าวต่อไป ด้วยถนนที่กว้างขวางขึ้น รอยยิ้มจากผู้คน และการพูดคุยอย่างสบายๆ แบบเป็นมิตร ซึ่งล้วนหายากยิ่งในเมืองใหญ่
พนมเปญยังคงมีสิ่งปลูกสร้างทั้งเก่าและใหม่ที่ตั้งอยู่เคียงกันอย่างน่าตรึงใจ แต่ที่นี่ก็พัฒนาไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน เวลานี้จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะมาเยี่ยมเยียน เพราะที่นี่เป็นเมืองที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ และเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมในยุคล่าอาณานิคมอันงดงาม ปราสาทและเจดีย์ระยิบระยับ อีกทั้งร้านอาหารชั้นเลิศ (ที่ราคาไม่แพง) ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นอันยอดเยี่ยมในการออกสำรวจสถานที่ทางประวัติศาสตร์บริเวณใกล้เคียง รวมถึงการเยี่ยมชมความงดงามของกัมพูชาในเมืองอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีศูนย์การค้าขนาดยักษ์ที่ผุดขึ้นมาใหม่มากมาย เชิญชวนให้ไปเยี่ยมเยือนเมื่อต้องการตามล่าหาความสะดวกสบายที่คุ้นเคย
เรื่องน่าทำ: พนมเปญ
-
สร้างตามสั่ง
ร่วมทัวร์ชมสถาปัตยกรรมเขมร (Khmer Achitecture Tour) อันงดงามที่ใช้เวลาสามชั่วโมงเดิมรอบกรุงพนมเปญ รวมถึงตลาดโกโรโกโสและตึกแถวสไตล์จีนที่มีชื่อเสียง บ้านหลังใหญ่ในยุคอาณานิคมสีเหลืองน้ำตาล ที่บางแห่งได้กลายมาเป็นโรงแรมและร้านอาหาร อาทิ Raffles Hotel Le Royal, The Pavilion Hotel และ The Foreign Correspondents’ Club แต่ที่โดดเด่นที่สุดคืออาคารยุคใหม่ในช่วงยุค 1950 และยุค 60 ของสถาปัตยกรรมเขมรยุคใหม่ นำโดยสถาปนิกชาวกัมพูชา Vann Molyvann พร้อมเที่ยวชมอนุสาวรีย์อิสรภาพ (Independence Monument) ทรงดอกบัว สนามกีฬาโอลิมปิก และเดอะ ไวท์ บิลดิ้ง (The White Building) อดีตโครงการสังคมที่อยู่อาศัย ที่มักมีผลงานศิลปะและการแสดงผลงานทางศิลปะให้ชม
-
ผลงานศิลปะ
ศิลปะร่วมสมัยและวัฒนธรรมในประเทศกัมพูชานั้นรุ่งเรืองด้วยศิลปินรุ่นใหม่ที่มักจัดนิทรรศการอย่างต่อเนื่องที่แกลเลอรี่อันทันสมัยของเมืองและศูนย์กลางทางศิลปะหลายแห่ง พื้นกระเบื้องอันสวยงามของ Java Cafe & Gallery, Bophana Audio-Visual Resource Center และศูนย์วัฒนธรรมฝรั่งเศส (French Cultural Centre) ล้วนเป็นสถานที่จัดแสดงผลงานของศิลปินที่มีชื่อเสียงของประเทศ ซึ่งศิลปินเหล่านี้ล้วนเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ ส่วนมหาวิทยาลัยราชวิจิตรศิลป์ (The Royal University of Fine Arts) ก็น่าสนใจด้วยบรรยากาศที่โปร่งสบายเหมาะสำหรับการแวะพัก ใกล้ๆ กันก็จะมีร้านค้าจำหน่ายสินค้าประเภทเครื่องเงิน เครื่องเขิน ภาพวาดจำลอง และอัญมณีอีกด้วย
-
อนุสรณ์แห่งความทรงจำ
อาจเป็นประสบการณ์ที่น่าสะเทือนใจสำหรับการไปเยี่ยมชมยังเจิงแอก (Choeung Ek) หรือที่รู้จักกันในนามว่า ทุ่งสังหาร (Killing Fields) ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงพนมเปญไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 16 กิโลเมตร สถานที่แห่งนี้เป็นที่ๆ น่าขนลุก เพราะเป็นอนุสรณ์อันแสนเศร้าของผู้คนราว 20,000 คน ที่ได้ถูกฆ่าและโดนทรมาน อีกทั้งพิพิธภัณฑ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตวลสแลง (Tuol Sleng Genocide Museum) หรือ S21 ซึ่งเคยเป็นโรงเรียนมัธยมที่ถูกใช้เป็นเรือนจำและสถานทรกรรมของพล พต (Pol Pot) ผู้นำเขมรแดง ที่ยังคงพันด้วยลวดหนาม และเต็มไปด้วยภาพหลอนของนักโทษ 17,000 คน
-
-
มือนวด
Bodia คือสปาสุดหรูที่มีบริการนวดกดจุดที่เท้าอันยอดเยี่ยม และการนวดหน้าชั้นเลิศก็ต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ อาทิ น้ำมันดอกมะลิ มะม่วง และข้าวเหนียวดำ ร่วมกับวิธีการนวดตามแบบฉบับเขมรดั้งเดิม นอกจากนี้ Bodia ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากวัตถุดิบของกัมพูชาจำหน่าย อีกทั้งยังสามารถเลือกใช้บริการนวดที่ดีจากหลายๆ ร้านนวดในเมือง ในราคาสองชั่วโมงต่ำกว่า US$10 ได้อีกด้วย
ข้อมูลสนามบิน
สู่ใจกลางเมือง 10 กิโลเมตร
ใช้ระยะเวลา 10 นาที
แท็กซี่ราคาประมาณ US$9
รถรีมอร์ค-โมโต้ (รถตุ๊กตุ๊ก) ราคา US$7 ใช้เวลาเดินทาง 10 นาที
เวลาที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว
แม้ว่าอุณหภูมิที่นี่จะร้อนระอุที่สุดในเดือนเมษายน แต่ช่วงเวลาส่วนใหญ่ของปีก็มีอากาศสบายๆ ฤดูฝนเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนไปจนเดือนถึงตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่จะมีฝนตกหนัก แต่ก็จะสั้นๆ และกระหน่ำหนักในคราวเดียว ซึ่งก็ยังสามารถท่องเที่ยวได้ ถนนในเมืองนั้นจะเงียบสงบในช่วงเทศกาลประชุมแบน (Pchum Ben) ซึ่งเป็นเทศกาลทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษที่ล่วงลับในเดือนกันยายน และช่วงเทศกาลขึ้นปีใหม่เขมร (Khmer New Year) ในกลางเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ชาวเขมรในกรุงพนมเปญจะมุ่งหน้ากลับบ้านในต่างจังหวัด ทำให้เป็นช่วงเวลาที่ดีในการเที่ยวชมเจดีย์ เที่ยวเล่นในเมือง และรวมไปถึงพื้นที่รอบนอกเมือง เพราะจะสวยงามไปด้วยธูปและของบูชาหลากสี สำหรับเทศกาลน้ำ (Water Festival) จะจัดขึ้นตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน โดยจะมีการแข่งขันเรือหางยาวในแม่น้ำ
กลับไปข้างบนการเดินทางในเมือง
ถนนในกรุงพนมเปญถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างมากในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้สะดวกในการเที่ยวชมริมฝั่งแม่น้ำและบริเวณโดยรอบพระราชวังด้วยการเดินเท้าหรือการใช้บริการสามล้อถีบ ในทางกลับกัน แท็กซี่ก็มีให้บริการเช่นกัน ซึ่งสามารถให้ทางโรงแรมจัดหาให้ได้ และรวมไปถึงตุ๊กตุ๊กที่มีอยู่มากมาย ควรต่อรองราคาก่อนใช้บริการ ราคาปกตินั้นจะอยู่ที่ราวๆ US$3-5 สำหรับการเดินทางรอบเดียวในเมืองและน้อยกว่า US$10 สำหรับไป-กลับ
กลับไปข้างบน