ดานัง
ภูเขาหินอ่อนและชายหาดขาวสวย ทำให้ดานังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างสูง
ดานังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่สี่ของเวียดนาม ซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วทั้งขนาดและความสำคัญ ปัจจุบันจึงนับเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะมาทำความคุ้นเคยกับเมืองที่เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งนี้
เริ่มต้นจากความสวยงามทางธรรมชาติ เพราะตั้งอยู่ระหว่างชายฝั่งทะเลและที่ราบสูงตอนกลาง จึงทำให้มีการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของดานังให้เป็นเมืองที่สมบูรณ์แบบ ง่ายต่อการสัญจร และเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทสำหรับวันหยุดที่หรูหราอันเพียบพร้อมไปด้วยสนามกอล์ฟอันตระการตา
ชาวเมืองดานังต่างภูมิใจในเมืองแห่งนี้ รวมทั้งการได้เป็นประชากรของเมืองที่ได้รับการกล่าวขวัญว่าเมืองที่แสนจะเป็นมิตร ดานังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย อาทิ ภูเขาหินอ่อน (Marble Mountain) และชายหาดอันเงียบสงบทอดยาว ที่มักจะถูกนักท่องเที่ยวมองข้าม ด้วยรีบมุ่งหน้าไปชมมรดกโลกของยูเนสโก้ที่เมืองฮอยอันและเมืองเว้หรือเมืองแห่งจักรพรรดิ์ฉะนั้นจึงควรเตรียมเวลาท่องเที่ยวดานังให้นานพอ จะได้จะไม่พลาดชื่นชมสถานที่สำคัญให้ครบ
เรื่องน่าทำ
-
สัมผัสความงามทางธรรมชาติ
แหลมซอนทร้า (Son Tra Peninsula) นั้นเป็นสถานที่ที่มีความงดงามของธรรมชาติอันโดดเด่น อีกทั้งยังเป็นแหล่งอนุรักษ์ธรรมชาติที่เป็นที่อยู่ของพืชพันธุ์และสัตว์ป่ากว่า 1,000 สายพันธุ์ ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนใกล้สูญพันธุ์ ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับชายหาดอันสวยงาม ควบคู่ไปกับการสำรวจแนวประการังนอกชายฝั่ง และการเดินป่าขึ้นเขาไปยังยอดเขาซอนทร้า ซึ่งมีความสูง 700 เมตรจากระดับน้ำทะเล เพื่อชมวิวอันตระการตาในแบบพาโนราม่า
-
วิถีชีวิตในเมืองเก่า
ด้วยมีบ้านเรือนของพ่อค้าชาวญี่ปุ่นมากมาย อีกทั้งวัดจีนและร่องรอยแห่งอารยธรรมการใช้ชีวิตของชาวเวียดนาม ฮอยอันจึงถูกยกให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกยูเนสโก้ของประเทศที่ควรไปเที่ยวชม ที่นี่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากดานัง จึงสามารถเดินทางไปได้ด้วยแท็กซี่หรือรถบัส พร้อมการนอนค้างซักคืน
-
ท่องเที่ยวตามท้องถนน
หากมีเวลาในการท่องเที่ยวบนถนนเพียงสายเดียวในดานัง ถนนบักดัง (Bach Dang Street) คือ ทางเลือกที่ดีที่สุด ด้วยเป็นถนนที่ทอดยาวไปตามฝั่งตะวันตกของแม่น้ำหาน (Han River) และยังเป็นที่ตั้งของสะพานแขวนข้ามแม่น้ำหาน (Swing Bridge) และสะพานมังกร (Dragon Brigde) อีกทั้งตลาดหาน (Han Market) ที่จำหน่ายอาหารทานเล่นมากมาย ที่พร้อมจะเติมเต็มความอร่อยในขณะที่เดินชมสถาปัตยกรรมอันสวยงามในยุคล่าอาณานิคมของฝรั่งเศส
-
อาณาจักรที่เคยรุ่งโรจน์
พิพิธภัณฑ์ประติมากรรมจาม (Museum of Cham Sculpture) เป็นสถานที่ที่ห้ามพลาดชม ด้วยเป็นสถานที่หนึ่งในโลกที่เก็บรักษาศิลปะวัตถุจากอาณาจักรจัมปา (Champa Kingdom) ซึ่งเคยปกครองภูมิภาคแห่งนี้ตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 7 จนถึง ค.ศ. 1832 อาณาจักรดังกล่าวได้ทิ้งซากปรักหักพังกระจัดกระจายไปทั่วตอนใต้ของเวียดนามที่ยากจะพบเจอ ฉะนั้นพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จึงเป็นสถานที่เดียวที่รวบรวมร่องรอยทางอารยธรรมเหล่านี้ให้ได้ชม โดยไม่ต้องเสี่ยงกับการหลงป่า
-
ไต่ความสูง
ดื่มด่ำไปกับวิวทิวทัศน์ของเมืองที่ทำให้ลืมหายใจคู่เครื่องดื่มสุดโปรด บนความสูงถึง 5,801 เมตร บนบานาฮิลส์ (Ba Na Hills) opens in new windowที่มีกระเช้าลอยฟ้ารางเดียวแบบไม่หยุดจอดเป็นระยะทางที่ยาวที่สุดในโลก เมื่อได้เดินทางมาถึงสถานีเฟรนช์ ฮิลล์ อันเก่าแก่ของบานาฮิลส์รีสอร์ท คุณก็จะได้ชื่นชมกับสุดยอดวิวทิวทัศน์ในแบบพาโรราม่าในวันที่อากาศสดใส
ข้อมูลสนามบิน
สู่ใจกลางเมือง 2 กิโลเมตร
ใช้ระยะเวลา 15 นาที
แท็กซี่ราคาประมาณ 30,000 ดอง (US$1.50)
ควรไปช่วงใด
ดานังมีอากาศร้อนและแห้งตั้งแต่เดือนพฤษภาคมไปจนถึงปลายเดือนสิงหาคม สำหรับช่วงเวลาที่ฝนตกหนักที่สุดคือตั้งแต่เดือนกันยายนถึงเดือนมกราคม โดยเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนจะมีฝนตกชุกที่สุด จึงทำให้เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคมเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการท่องเที่ยว ซึ่งจริงๆ แล้วดานังนั้นไม่ได้มีอากาศร้อนจัดหรือหนาวจัดเหมือนเมืองอื่นๆ ของเวียดนาม
ในกุมภาพันธ์ จะมีการจัดงานประกวดดอกไม้ไฟระดับนานาชาติ ในขณะที่เดือนมิถุนายนจะเป็นช่วงของการจัดงานเทศกาลตามชายหาดที่เต็มไปด้วยกีฬาทางน้ำ ร่วมด้วยการสาธิตปรุงอาหาร งานปาร์ตี้ และการแสดงทางวัฒนธรรม
การเดินทาง
ดานังเป็นเมืองเล็กๆ ที่สามารถสัญจรไปมาได้อย่างง่ายดายด้วยการเดินเท้าหรือนั่งมอเตอร์ไซด์ หรือหากต้องการมากกว่านี้ ก็มีบริการเช่นกัน เช่น รถยนต์ที่ผู้ขับขี่ล้วนมีความรู้และอารมณ์ดี หรือการสำรวจเมืองโดยรถประจำทาง แต่ก็ไม่รับประกันความสะดวกสบายและความสนุกดั่งที่คาดหวัง
กลับไปข้างบน