**เอกสารแนบ A**
**กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคของออสเตรเลีย, ตาราง 2 ของกฎหมายว่าด้วยการแข่งขันและผู้บริโภค ปี 2010**
18 การกระทำที่สร้างความเข้าใจผิดหรือหลอกลวง
(1) บุคคลต้องไม่มีส่วนร่วมในการกระทำที่สร้างความเข้าใจผิดหรือหลอกลวงหรือมีแนวโน้มที่จะสร้างความเข้าใจผิดหรือหลอกลวง ในทางการค้าหรือการพาณิชย์
(2) ไม่มีข้อความใดในส่วนที่ 3‐1 (ซึ่งเกี่ยวกับแนวปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม) ซึ่งเป็นการจํากัดข้อย่อย (1) โดยนัย
29 การแถลงข้อความอันเป็นเท็จหรือสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ
(1) บุคคลต้องไม่เกี่ยวข้องกับการจัดหาหรืออาจจัดหาสินค้าหรือบริการ ในทางการค้าหรือการพาณิชย์ หรือเกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการขายด้วยวิธีใด ๆ ในการจัดหาหรือการใช้สินค้าหรือบริการ
(a) แถลงข้อความอันเป็นเท็จหรือสร้างความเข้าใจผิดว่าสินค้าเป็นไปตามมาตรฐาน คุณภาพ มูลค่า เกรด องค์ประกอบ สไตล์หรือรุ่นเฉพาะใด ๆ หรือมีประวัติเฉพาะหรือการใช้งานก่อนหน้านี้แบบพิเศษโดยเฉพาะ หรือ
(b) แถลงข้อความอันเป็นเท็จหรือสร้างความเข้าใจผิดว่าบริการนั้นเป็นไปตามมาตรฐาน คุณภาพ มูลค่า หรือเกรดเฉพาะ หรือ
(c) แถลงข้อความอันเป็นเท็จหรือสร้างความเข้าใจผิดว่าสินค้านั้นเป็นสินค้าใหม่ หรือ
(d) แถลงข้อความอันเป็นเท็จหรือสร้างความเข้าใจผิดว่าบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้ตกลงจัดหาสินค้าหรือบริการ หรือ
(e) แถลงข้อความอันเป็นเท็จหรือสร้างความเข้าใจผิดว่าคำกล่าวอ้างต่าง ๆ ได้รับการรับรองโดยบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการ หรือ
(f) แถลงข้อความอันเป็นเท็จหรือสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ:
(i) คํารับรองจากบุคคลใดก็ตาม หรือ
(ii) การแถลงข้อความว่าคำกล่าวอ้างเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ได้รับการรับรอง หรือ
(g) แถลงข้อความอันเป็นเท็จหรือสร้างความเข้าใจผิดว่าสินค้าหรือบริการได้รับการสนับสนุน การอนุมัติ ลักษณะการปฏิบัติงาน อุปกรณ์เสริม การใช้งานหรือประโยชน์ต่าง ๆ หรือ
(h) แถลงข้อความอันเป็นเท็จหรือสร้างความเข้าใจผิดว่าบุคคลที่แถลงข้อความจริงนั้นได้รับการสนับสนุน อนุมัติ หรืออยู่ในสังกัด หรือ
(i) แถลงข้อความอันเป็นเท็จหรือทําให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาสินค้าหรือบริการ หรือ
(j) แถลงข้อความอันเป็นเท็จหรือทําให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับความพร้อมใช้งานของระบบต่าง ๆ ในการซ่อมแซมสินค้าหรือชิ้นส่วนอะไหล่ของสินค้า หรือ
(k) แถลงข้อความอันเป็นเท็จหรือทําให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับแหล่งกําเนิดสินค้า หรือ
(l) แถลงข้อความอันเป็นเท็จหรือทําให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับความต้องการสินค้าหรือบริการใด ๆ หรือ
(m) แถลงข้อความอันเป็นเท็จหรือทําให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับการมีอยู่ การยกเว้นหรือผลกระทบของเงื่อนไข การรับประกัน การรับรอง สิทธิ หรือการแก้ไขเยียวยาใด ๆ (รวมถึงการรับประกันภายใต้หมวด 1 ของส่วนที่ 3‐2) หรือ
(n) แถลงข้อความอันเป็นเท็จหรือทําให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับข้อกําหนดในการชําระเงินสำหรับสิทธิตามสัญญาที่:
(i) เทียบเท่ากับเงื่อนไข การรับประกัน การรับรอง สิทธิ หรือการแก้ไขเยียวยาใด ๆ ทั้งหมดหรือบางส่วน (รวมถึงการรับประกันภายใต้หมวด 1 ของส่วนที่ 3‐2) และ
(ii) บุคคลหนึ่ง ๆ มีกฎหมายของเครือจักรภพ รัฐ หรืออาณาเขต (นอกเหนือจากกฎหมายที่ไม่ได้บัญญัติเป็นลายลักษณ์อักษร)
หมายเหตุ 1: อาจมีการกําหนดบทลงโทษฐานความผิดในการฝ่าฝืนบทบัญญัติของข้อย่อยนี้
หมายเหตุ 2: สําหรับกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการแถลงข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับประเทศแหล่งกําเนิดสินค้า ดูส่วนที่ 5‐3
(2) เพื่อวัตถุประสงค์ของข้อย่อยที่ (1) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการดําเนินการเกี่ยวกับการรับรองในลักษณะที่ถูกอ้างถึงในข้อย่อย (1)(e) หรือ (f) การแถลงข้อความที่สร้างความเข้าใจผิด เว้นแต่จะมีการนำพยานหลักฐานใด ๆ มาสืบซึ่งตรงข้ามกับข้อกล่าวหา
(3) เพื่อหลีกเลี่ยงข้อสงสัย จะถือว่าข้อย่อย (2):
(a) ไม่มีผลในแง่ที่ว่าการแถลงข้อความนั้นไม่สร้างความเข้าใจผิด เพียงเพราะว่าได้มีการนำพยานหลักฐานมาสืบ หรือ
(b) ไม่มีผลในการทําให้บุคคลใด ๆ มีหน้าที่ในการพิสูจน์ว่าการแถลงข้อความนั้นมิได้สร้างความเข้าใจผิด
48ต้องระบุราคาเดียวในบางกรณี
(1) บุคคลต้องไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งต่อไปนี้ ในทางการค้าหรือการพาณิชย์:
(a) การจัดหาหรือความเป็นไปได้ที่จะจัดหาสินค้าหรือบริการให้แก่บุคคลอื่น โดยที่สินค้าหรือบริการนั้นสามารถซื้อหาได้ทั่วไปเพื่อการใช้งานหรือการบริโภคส่วนบุคคล ในบ้าน หรือในครัวเรือน หรือ
(b) การส่งเสริมการขายด้วยวิธีการจัดหาสินค้าหรือบริการให้แก่บุคคลอื่นไม่ว่าด้วยวิธีใด ๆ หรือโดยการที่บุคคลอื่นใช้สินค้าหรือบริการนั้น โดยที่สินค้าหรือบริการนั้นสามารถซื้อหาได้ทั่วไปเพื่อการใช้งานหรือการบริโภคส่วนบุคคล ในบ้าน หรือในครัวเรือน
รับรองถึงจำนวนเงินที่เมื่อมีการชำระแล้ว จะถือเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาเพื่อการจัดหาสินค้าหรือบริการนั้น เว้นแต่บุคคลดังกล่าวจะระบุไว้อย่างชัดเจนและระบุตัวเลขเดียว หรือราคาเดียวสําหรับสินค้าหรือบริการเหล่านั้น
หมายเหตุ: อาจมีการกำหนดบทลงโทษเฉพาะสำหรับการฝ่าฝืนข้อย่อยนี้
(2) บุคคลไม่จำเป็นจะต้องระบุถึงราคาเดียวสำหรับสินค้า หรือค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระซึ่งเกี่ยวข้องกับการส่งสินค้าจากซัพพลายเออร์ไปยังบุคคลอื่น
(3) อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่:
(a) บุคคลนั้นมิได้ระบุราคาเดียว หรือค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระซึ่งเกี่ยวข้องกับการส่งสินค้าจากซัพพลายเออร์ไปยังบุคคลอื่น และ
(b) บุคคลนั้นทราบ (ณ เวลาที่รับรอง) จำนวนเงินขั้นต่ำที่เกี่ยวข้องกับการส่งสินค้าจากซัพพลายเออร์ไปยังบุคคลอื่นว่าบุคคลอื่นนั้นต้องเป็นผู้ชำระเงิน
บุคคลนั้นต้องไม่รับรองตามที่อ้างถึงในข้อย่อย (1) เว้นแต่บุคคลดังกล่าวจะระบุจํานวนเงินขั้นต่ำ
หมายเหตุ: อาจมีการกำหนดบทลงโทษเฉพาะสำหรับการฝ่าฝืนข้อย่อยนี้
(4) ข้อย่อย (1) ไม่มีผลบังคับใช้ หากการรับรองนั้นทําขึ้นเป็นการเฉพาะกับนิติบุคคล
(4A) ข้อย่อย (1) ไม่มีผลบังคับใช้ในกรณีที่:
(a) การรับรองนั้นจัดอยู่ในประเภทของการรับรองที่อธิบายไว้ในระเบียบข้อบังคับ และ
(b) เงื่อนไข (ถ้ามี) ที่อธิบายในระเบียบข้อบังคับในส่วนที่เกี่ยวกับการรับรองในประเภทนั้น ได้รับการปฏิบัติตาม
หมายเหตุ: หากการรับรองจัดอยู่ในประเภทที่อธิบายในย่อหน้า (a) ของข้อย่อยนี้และข้อย่อย (1) ได้รับการปฏิบัติตามโดยเกี่ยวข้องกับการรับรองดังกล่าว ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขใด ๆ ที่อธิบายในย่อหน้า (b) ของข้อย่อยนี้
(5) เพื่อจุดประสงค์ของข้อย่อย (1) บุคคลดังกล่าวไม่จำเป็นต้องระบุราคาเดียวสําหรับสินค้าหรือบริการอย่างชัดเจน เว้นแต่ราคาเดียวนั้นมีความชัดเจนเทียบเท่าส่วนต่าง ๆ ของข้อควรพิจารณาที่ชัดเจนที่สุดในการจัดหาสินค้าหรือบริการนั้น เป็นอย่างน้อย
(6) ข้อย่อย(5) ไม่มีผลบังคับใช้ในส่วนที่เกี่ยวกับบริการต่างๆ ที่จัดหาให้ภายใต้สัญญาใด ๆ ในกรณีที่:
(a) สัญญานั้นระบุถึงการจัดหาบริการภายในระยะเวลาของสัญญา และ
(b) สัญญานั้นระบุถึงการชำระเงินตามรอบเวลาสำหรับบริการดังกล่าวที่ต้องดำเนินการในช่วงระยะเวลาของสัญญา และ
(c) ถ้าสัญญานั้นยังระบุถึงการจัดหาสินค้า--สินค้าดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับการจัดหาบริการต่าง ๆ เหล่านั้นโดยตรง
(7) ราคาเดียวคือ ข้อพิจารณาที่บอกจำนวนขั้นต่ำสำหรับการจัดหาสินค้าหรือบริการ ณ เวลาที่รับรอง รวมถึงจำนวนเงินแต่ละรายการต่อไปนี้ (ถ้ามี) ซึ่งบอกจำนวน ณ เวลานั้น
(a) ค่าใช้จ่ายที่บุคคลอื่นต้องชำระให้แก่บุคคลที่ทำการรับรอง เว้นแต่:
(i) ค่าใช้จ่ายนั้นสามารถชำระด้วยวิธีที่บุคคลอื่นสามารถเลือกได้ และ
(ii) ในเวลาที่มีการรับรองหรือก่อนหน้านั้น บุคคลอื่นได้กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง คือหนึ่ง ยกเลิกการเลือกรายการที่มีค่าใช้จ่ายนั้น หรือสอง มิได้ร้องขอโดยชัดแจ้งว่ารายการที่มีค่าใช้จ่ายนั้นจะถูกนำมาใช้
(b) จํานวนที่แสดงค่าภาษี อากร ค่าธรรมเนียม หรือค่าใช้จ่ายใดๆ ที่กำหนดสำหรับบุคคลที่ทำการรับรองนั้นซึ่งเกี่ยวข้องกับการจัดหาสินค้าหรือบริการ
(c) จำนวนเงินใด ๆ ที่ชำระหรือต้องชำระโดยบุคคลที่ทำการรับรองเกี่ยวกับการจัดหาสินค้าหรือบริการในส่วนที่เกี่ยวกับภาษี อากร ค่าธรรมเนียม หรือค่าใช้จ่ายใด ๆ ในกรณีที่:
(i) จำนวนเงินที่ชำระหรือต้องชำระนั้นอยู่ภายใต้ข้อตกลง หรือการจัดการที่กระทำภายใต้กฎหมายเครือจักรภพ กฎหมายของรัฐ หรืออาณาเขตใด ๆ และ
(ii) ภาษี อากร ค่าธรรมเนียม หรือค่าใช้จ่ายเรียกเก็บที่ต้องชำระโดยบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาสินค้าหรือบริการ
ตัวอย่างที่ 1: สายการบินโฆษณาเที่ยวบินราคาพิเศษ บุคคลต่าง ๆ มีทางเลือกในการชำระเงินค่าชดเชยคาร์บอน หากมีการเลือกการชดเชยคาร์บอนไว้ล่วงหน้าในระบบการจองออนไลน์ของสายการบิน ราคาเดียวของเที่ยวบินดังกล่าวต้องรวมค่าชดเชยคาร์บอนไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากบุคคลดังกล่าวไม่ได้ยกเลิกการเลือกค่าธรรมเนียมดังกล่าวบนเว็บไซต์การจองออนไลน์ ณ เวลาที่รับรองหรือก่อนหน้านั้น หากบุคคลดังกล่าวยกเลิกการเลือกค่าธรรมเนียมคาร์บอนที่เป็นตัวเลือกในภายหลังในขั้นตอนการจองออนไลน์ ราคาเดียวก็ไม่จําเป็นจะต้องรวมค่าชดเชยคาร์บอนหลังจากที่มีการยกเลิกการเลือกค่าธรรมเนียม เนื่องจากข้อยกเว้นตามที่ระบุไว้ในย่อหน้า (a)(i) และ (ii)
ตัวอย่างที่ 2: GST อาจเป็นตัวอย่างของจำนวนเงินที่หมายรวมถึงในย่อหน้า (b)
ตัวอย่างที่ 3: ค่าธรรมเนียมการเคลื่อนย้ายผู้โดยสารที่เรียกเก็บภายใต้กฎหมายค่าธรรมเนียมการเคลื่อนย้ายผู้โดยสาร ปี 1978 (Passenger Movement Charge Act 1978) อาจเป็นตัวอย่างของจำนวนเงินที่หมายรวมถึงใน ย่อหน้า (c) ภายใต้การดำเนินการในข้อ 10ของกฎหมายเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการเคลื่อนย้ายผู้โดยสาร ปี 1978 (Passenger Movement Charge Collection Act 1978) สายการบินอาจชำระเงินในจำนวนเท่ากับจำนวนเงินที่ผู้โดยสารต้องชำระเมื่อออกจากออสเตรเลีย