เมื่อคุณจองการเดินทางไปยัง/จากสหรัฐฯ หรือภายในสหรัฐฯ หรือผ่านสหรัฐฯ เราจะขอให้คุณแจ้งรายละเอียดบางอย่างในระหว่างการจองและเมื่อคุณเช็คอินที่สนามบิน
ข้อมูลนี้เป็นข้อบังคับตามที่หน่วยงานผู้มีอำนาจของสหรัฐฯ กำหนดภายใต้ระบบแจ้งข้อมูลเที่ยวบินและผู้โดยสารล่วงหน้าเพื่อความปลอดภัย (Secure Flight and Advance Passenger Information System - APIS)
คุณต้องแจ้งรายละเอียดต่อไปนี้เมื่อทำการจอง
- ชื่อและนามสกุลของผู้โดยสารแต่ละคนซึ่งต้องตรงกับชื่อและนามสกุลในเอกสารการเดินทางของผู้โดยสารนั้น ๆ
- วันเดือนปีเกิด
- เพศ
ที่เคาน์เตอร์เช็คอิน คุณต้องแจ้งข้อมูลต่อไปนี้เพิ่มเติมในการจองของท่าน นั่นคือ
- หมายเลขหนังสือเดินทาง
- สัญชาติ
- ประเทศที่ออกหนังสือเดินทาง
- หมายเลขทะเบียนบุคคลต่างด้าว (ถ้ามี)
- ที่อยู่ปลายทางในสหรัฐอเมริกา (ไม่จําเป็นสําหรับพลเมืองและผู้มีถิ่นพํานักถาวรในสหรัฐอเมริกา) และประเทศที่มีถิ่นพํานักสําหรับเที่ยวบินที่เดินทางมาถึงสหรัฐอเมริกา
- หมายเลขแสดงตัวตน* (ถ้ามี)
*หมายเลขแสดงตัวตนคือ หมายเลขเฉพาะที่ช่วยให้หน่วยงานรักษาความปลอดภัยด้านการขนส่ง (TSA) ของสหรัฐอเมริกาสามารถขจัดปัญหาการระบุตัวตนผิดพลาดสำหรับรายชื่อบุคคลที่ถูกจับตามอง หากคุณประสบปัญหาในการตรวจคัดกรอง หรือเชื่อว่าเกิดข้อผิดพลาดขึ้นที่ทำให้ชื่อของคุณตรงกับรายชื่อที่บุคคลถูกจับตามอง ขอให้แจ้งความจำนงต่อกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (Department of Homeland Security, DHS) เพื่อขอหมายเลขแสดงตัวตน
ระบบ Secure Flight คืออะไร
ระบบ Secure Flight ช่วยในการตรวจสอบข้อมูลผู้โดยสารเบื้องต้นเพื่อให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาพิจารณาว่าจะอนุญาตให้ผู้โดยสารเดินทางเข้า, ออกจาก, ผ่านประเทศ หรือเปลี่ยนเครื่องที่สหรัฐอเมริกาหรือไม่ โดยจะพิจารณาจาก:
- บัญชีผู้ต้องสงสัย และผู้ก่อการร้าย
- รายชื่อบุคคลต้องห้ามโดยสารทางเครื่องบิน (และสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆภายใต้การควบคุมของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา) ตั้งแต่ช่วงเวลาขึ้นเครื่องไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา
- ผู้ที่มีรายชื่อในบัญชีเกณฑ์ทหารเพื่อการตรวจสอบเพิ่มเติมในการได้รับอนุญาตให้เดินทางขึ้นเครื่อง
- กรณีผู้โดยสารที่ต้องได้รับความช่วยเหลือพิเศษ ทางสายการบินอนุญาตให้ผู้ที่ผ่านการตรวจสอบยังคงเดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาได้
- อยู่ภายใต้นโยบายปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้โดยสาร
ข้อมูล Secure Flight นั้นๆจะถูกนำไปใช้ทำอะไรบ้าง
สายการบินจะต้องได้รับอนุญาตจาก TSA ในการอนุญาตให้ผู้โดยสารแต่ละท่านเดินทางขึ้นเครื่องไปยัง, ออกจาก, เดินทางภายใน หรือผ่านประเทศสหรัฐอเมริกาได้
ในการขออนุญาตทำการบิน ทางสายการบินจะต้องส่งข้อมูลชื่อของผู้โดยสาร วันเกิด เพศ หมายเลข redress (ถ้ามี) ไปยัง TSA ภายใน 72 ชม. ก่อนกำหนดออกเดินทาง เพื่อให้ TSA ทำการพิจารณา
TSA ได้กำหนดนโยบายความปลอดภัยข้อมูลผู้โดยสารไว้ดังนี้:
หน่วยงาน Transportation Security Administration (TSA) กำหนดให้ผู้โดยสารจะต้องแจ้งข้อมูลชื่อของผู้โดยสาร วันเกิด เพศ เพื่อทำการตรวจสอบเบื้องต้นภายใต้รายการควบคุมต่างๆ ตามข้อกำหนดที่ 49 U.S.C. section 114, the Intelligence Reform และ Terrorism Prevention Act of 2004 และ 49 C.F.R parts 1540 และ 1560 โดยท่านจะต้องแจ้งหมายเลข redress (ถ้ามี) โดยทาง TSA จะไม่อนุญาตให้ทันผ่านเข้าไปบริเวณทางขึ้นเครื่องบิน หากผู้โดยสารไม่ทำการแจ้งข้อมูลที่ระบุไว้อย่างครบถ้วน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ US Transportation Security Administration (TSA)
จะเกิดอะไรขึ้นหากฉันไม่สามารถแจ้งข้อมูลตามที่กำหนด
กรณีที่ท่านให้ข้อมูลชื่อของผู้โดยสาร วันเกิด เพศ ไม่ครบตามกำหนด ทางสายการบินจะไม่ออกตั๋วเครื่องบินให้กับท่าน เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวจะต้องระบุไว้ในขั้นตอนการจอง และท่านจะไม่สามารถเดินทางขึ้นเครื่องบินได้
โปรแกรม Secure Flight นั้นใช้แทนระบบ Advance Passenger Information ได้หรือไม่
ระบบ Secure Flight ไม่สามารถใช้แทน ระบบ Advance Passenger Information โดยได้มีข้อกำหนดให้สายการบินนำส่งข้อมูล หนังสือเดินทางผู้โดยสาร, หมายเลขต่างด้าว (ถ้ามี), เที่ยวบินที่เดินทางไปยังอเมริกา, ที่อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา (ไม่ต้องใช้สำหรับผู้โดยสารสัญชาติอเมริกาและผู้อาศัยในอเมริกา) ให้กับ TSA และ Border Protection (CBP) ซึ่งทางสายการบินจะต้องได้รับอนุญาตจาก CBP เสียก่อน จึงจะทำการอนุญาตให้ผู้โดยสารนั้นๆเดินทางขึ้นเครื่องได้
ดูข้อมูลเกี่ยวกับ APIS ได้ที่ Customs and Border Protection (CBP) website