บรรยากาศตัวเมืองอันทันสมัย เสน่ห์ของประวัติศาสตร์ และอาหารรสชาติดี

ตั้งอยู่ระหว่างธรรมชาติของภูเขาและแม่น้ำ การผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมยุคอาณานิคมและอาคารอุตสาหกรรมที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ของใจกลางเมืองโฮบาร์ตนั้นช่างน่าทึ่ง ด้านหลังของวิวที่สวยเหมือนในไปรษณียบัตรของโกดังหินทรายยุคศตวรรษที่ 19 และใบเรืออันสดใสในผืนน้ำก็คือบาร์ไวน์และวิสกี้อันลึกลับ ร้านอาหารหรู และแกลอรี่ศิลปะอันน่าตื่นเต้น และยังมีโมนา ซึ่งก็คือพิพิธภัณฑ์ศิลปะยุคเก่าและยุคใหม่ที่เป็นบ้านของคอลเลคชั่นงานศิลป์และศิลปวัตถุที่เป็นเอกลักษณ์และกระตุ้นความคิด

ผู้ผลิตที่มุ่งมั่นและพ่อครัวช่างคิด เมื่อจับคู่กับพื้นที่ผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงที่ตั้งอยู่ไม่ไกลนักจากตัวเมือง ทำให้เมืองนี้เป็นปลายทางอาหารอันน่าตื่นเต้น ตามล่าปิโนนัวร์และรีสลิ่งที่ได้รับรางวัลมาแล้วได้ในประตูห้องเก็บไวน์ในเดอเวนท์ ฮูออน และหุบเขาโคลริเวร์ ไล่ตามทางเดินแห่งวิสกี้หรือไซเดอร์ แล้วแวะเยี่ยมฟาร์มเล็กๆที่ขายน้ำผึ้งและเบอรี่หรือเสิร์ฟในร้านกาแฟที่ตั้งอยู่ในแหล่งผลิตโดยตรง

โฮบาร์ตมีภูมิประเทศตามธรรมชาติอันงดงามที่สุดในออสเตรเลียที่ท่านเข้าถึงได้ง่าย ที่นี่ท่านจะสามารถเดินทางไกล ล่องเรือคายัก ขี่จักรยานภูเขา หรือล่องเรือชมธรรมชาติ โฮบาร์ตอันเก่าแก่คือความฝันของนักเดินทางยุคใหม่

กลับไปข้างบน

เรื่องน่าทำ: โฮบาร์ต

  • เที่ยวชมธรรมชาติ

    ขับรถไปไม่ไกลนักจากตัวเมือง ทางเดินเท้าและทางจักรยานภูเขาที่ตัดกันไปมาของภูเขาเวลลิงตันจะมีทิวทัศน์อันงดงามของเมืองนี้ ไกลออกไปจะมีคาบสมุทรแทสแมนคือที่ตั้งของสิ่งมหัศจรรย์อันน่าทึ่งอย่างเช่นโบลว์โฮลและแทสแมนอาร์ค และท่านยังท่องเรือราคาประหยัดไปยังหน้าผาทะเลที่สูงที่สุดของซีกโลกใต้เพื่อดูโลมา แมวน้ำขน นกอัลบาทรอส และวาฬอพยพได้อีกด้วย หรือจะขับรถไปยังเมย์ดีน่า opens in new window ที่มีชื่อเสียงในเรื่องเส้นทางจักรยานภูเขา เพื่อชมธรรมชาติที่เป็นมรดกโลกของแทสเมเนีย ใกล้ชิดกับแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติอันน่าทึ่งอย่างเช่นอุทยานแห่งชาติภูเขาฟิลด์และอุทยานแห่งชาติเซาท์เวสต์
  • เกาะของนักดื่ม

    โฮบาร์ตตั้งอยู่ใกล้กับไร่องุ่นที่ล้อมรอบอยู่กว่าเมืองหลวงอื่นๆของออสเตรเลีย และท่านก็สามารถชิมไวน์ภูมิอากาศเย็นชั้นดีได้ในเส้นทางไวน์ภาคใต้ opens in new window แต่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของชาวแทสเมเนียนั้นมีมากกว่าไวน์ อุตสาหกรรมวิสกี้เพิ่งเริ่มตั้งต้นแต่ก็มีชื่อเสียงโด่งดัง และมีจุดแวะพักที่น่าสนใจบนเส้นทางวิสกี้ opens in new window อย่างเช่น ซัลลิแวนโคฟและลาร์คดิสทิลเลรี่ ก็ตั้งอยู่ในโฮบาร์ตหรือในบริเวณใกล้เคียง ถ้าท่านชอบคราฟ์เบียร์ ชมเบียร์ที่ผลิตด้วยมือของภูมิภาคนี้ได้ในเส้นทางเบียร์ opens in new window ยังกระหายอยู่หรือเปล่า? ไปตามเส้นทางไซเดอร์ opens in new windowสิ - แล้วจะรู้ว่าทำไมที่นี่ถึงได้ชื่อว่า 'เกาะแอปเปิ้ล'!
  • สวรรค์ของคนรักอาหาร

    โฮบาร์ตคือแหล่งอาหารที่สดใหม่และมีคุณภาพจากแหล่งผลิตอาหารหลักของแทสเมเนีย นั่นก็คือฮูออนและเดอเวนท์เวลลีย์ เชิญสัมผัสกับบรรยากาศอันสดใสของท้องถิ่นจากฟาร์มโดยตรงได้ที่ตลาดนัดฟาร์มเกต opens in new windowที่ชาวสวนและผู้ผลิตจะมาขายสินค้าให้แก่ท่านโดยตรง นั่งเรือข้ามฟากไปเกาะบรูนี่ที่บริษัทเนยแข็งเกาะบรูนี่ opens in new windowผลิตเนยแข็งอันมีชื่อเสียงโดยใช้เทคนิคแบบโบราณ แล้วแวะทานหอยนางรมแสนอร่อยจากแหล่งน้ำอันบริสุทธิ์ของเกรตเบย์ได้ที่เก็ตชัคก์ opens in new window แวะชิมอาหารอร่อยๆในร้านชื่อดังของเมือง อย่างเช่นแฟรงค์กิ้น เท็มโพล หรือฟาโร (ในโมนา) แล้วจองชั้นเรียนทำอาหารที่โรงเรียนสอนทำอาหารอกาเรียนคิตเช่น opens in new window ใกล้ๆกับลัชลาน
  • สีสันของประวัติศาสตร์

    เรือนจำทั้งในและรอบๆโฮบาร์ตคือตัวอย่างที่ดีที่สุดที่ยังหลงเหลืออยู่ของยุคนักโทษอันโหดร้ายของออสเตรเลีย บ่อยครั้งสถานที่เหล่านี้ตั้งอยู่ท่ามกลางความงามตามธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ พวกมันเปรียบเสมือนหน้าต่างของจุดเริ่มต้นอันยากลำบากของประเทศนี้ พอร์ตอาเธอร์ opens in new window เรือนจำที่ยังมีสภาพดีที่สุดของประเทศ เป็นพิพิธภัณฑ์แบบเปิดที่ประกอบด้วยอาคารและโบราณสถานกว่า 30 หลังที่สร้างมาตั้งแต่ยุค 1830 ซึ่งเป็นปีที่เรือนจำแห่งนี้ถูกสร้างขึ้น ที่นี่ตั้งอยู่ 90 นาทีไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของโฮบาร์ต ในเซาท์โฮบาร์ตจะมีโรงงานนักโทษหญิงคาสเคด opens in new window ที่จะทำให้ท่านเห็นภาพว่านนักโทษหญิงของอาณานิคมนี้ได้รับการปฏิบัติอย่างไร (คำใบ้: ไม่ดีไปกว่านักโทษชายสักเท่าไหร่) ใกล้ๆกันยังมีโรงเบียร์คาดเคด opens in new windowที่เก่าแก่ที่สุดในออสเตรเลียอีกด้วย
  • โมนา ดิสนีย์แลนด์ของผู้ใหญ่

    ก่อตั้งขึ้นโดยเศรษฐีพันล้านนิสัยแปลก (และเป็นชาวโฮบาร์ต) ที่ชื่อเดวิด วอลช์ในปี 2011 โมนา opens in new windowเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมอันน่าหลงใหลเสมอที่เป็นส่วนตัวอย่างประหลาด กระตุ้นความคิด และบางทีก็น่าตกใจ ใช่แล้ว เขาเรียกที่นี่ว่าพิพิธภัณฑ์ศิลปะยุคเก่าและยุคใหม่ แต่ก็ยังเป็นเหมือนสวนสนุกสำหรับผู้ใหญ่อีกด้วย เต็มไปด้วยสิ่งของประหลาด น่าสับสน และตลกมากมายที่จะทำให้ท่านอ้าปากค้าง ครุ่นคิด และยิ้ม ที่นี่มีโรงผลิตเบียร์ โรงไวน์ ร้านกาแฟ และร้านอาหารชั้นดี ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องจากที่นี่ไป นักท่องเที่ยวเกือบทุกคนจะประทับใจกับโครงสร้างริมหน้าผาอันน่าทึ่งจากเรือแฝดพิเศษในแม่น้ำเดอเวนท์จากใจกลางเมืองโฮบาร์ต
กลับไปข้างบน

ข้อมูลสนามบิน

ใจกลางเมือง 17 กิโลเมตร
ใช้ระยะเวลา 20 นาที
แท็กซี่ราคาประมาณ A$40
รถ Tasmania Redline Airporter รองรับในทุกๆ เที่ยวบิน หนึ่งเที่ยวราคา A$17 (ผู้ใหญ่) A$13 (เด็กอายุ 3-15 ปี) ไป-กลับ
A$30 (ผู้ใหญ่) A$23 (เด็ก)

สนามบินอยู่ห่างจากใจกลางเมืองประมาณ 19 กิโลเมตร ซึ่งใช้เวลา 20 นาทีในการเดินทาง โดยค่าแท็กซี่จะอยู่ที่ A$40ที่จอดรถสนามบิน : A$3–$20 (10 นาที ¬– 24 ชั่วโมง) และมีระบบการจอดรถที่ปลอดภัยเป็นพิเศษให้บริการเช่นกัน ในราคา A$14 ต่อวัน กลับไปข้างบน

เวลาที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว

โฮบาร์ตเป็นเมืองที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวในทุกช่วงเวลาของปี แต่จะมีอุณหภูมิที่ลดต่ำอย่างมาก ในช่วงฤดูหนาว ดังนั้นฤดูร้อน (เดือนกันยายน-เมษายน) จึงเป็นช่วงที่มีอุณหภูมิที่เหมาะสมแก่การมาเยี่ยมเยือน แต่ก็ควรสวมเสื้อผ้าให้อบอุ่นเพราะในช่วงกลางคืนจะมีอากาศที่หนาวเย็น เดือนแห่งฤดูหนาว (เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม) เป็นเดือนที่มีบรรยากาศเงียบสงบ ด้วยมีกลางวันที่สั้นลงและอุณหภูมิที่หนาวเย็นระหว่าง 4-8 องศาเซลเซียส โฮบาร์ตมีเทศกาลที่จัดขึ้นในทุกช่วงของปี อาทิ MONA FOMA Summer Festival of music and Art งานเทศกาลดนตรีและศิลปะ (เดือนมกราคม) และเทศกาลอันบ้าระห่ำ DARK MOFO ในช่วงฤดูหนาว (เดือนมิถุนายน) ที่มีผู้มาร่วมงานมากที่สุด เมืองโฮบาร์ตจะคึกคักที่สุดในฤดูร้อน โดยเฉพาะในวันปีใหม่ที่การแข่งขันแล่นเรือ Sydney to Hobart Yacht Race อีกทั้งเทศกาลภาพยนตร์ เพลงแจ๊ส อาหาร และไวน์แห่งฤดูร้อน

กลับไปข้างบน

การเดินทางในเมือง

สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในเมืองโฮบาร์ตนั้นสามารถเดินถึงจากใจกลางเมือง หากอย่างนั่งรถก็มีบริการจาก Metro Buses วิ่งเชื่อมต่อไปยังทางเหนือ ตะวันออก และทางใต้ของเมือง ส่วนบริการรถชัตเตอร์บัสฟรี Hobart Hopper จะวิ่งรับส่งตามป้ายในใจกลางเมืองเท่านั้น ทั้งย่านซาลามันคา (Salamanca) และบริเวณริมแม่น้ำ โดยจะวิ่งวนไปเรื่อยๆ และหนึ่งรอบใช้เวลา 10 นาที เปิดให้บริการตั้งแต่ 8.30 ในตอนเช้าถึง 4.00 ในตอนเย็น นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวก็สามารถใช้ MONA Ferry ตามท่าจอดเรือก็ย่อมได้

กลับไปข้างบน